การจัดการความรู้เรื่องแผลกดทับ
ผู้มารับบริการในขอบเขตที่โรงพยาบาลอินทร์บุรีรับผิดชอบนั้น ประกอบไปด้วยผู้ป่วยฉุกเฉินและ โรคเรื้อรัง ซึ่งผู้ป่วยเรื้อรังเหล่านี้จำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ในขณะที่โรงพยาบาลมีจำนวนเตียงจำกัดที่จะรับไว้รักษาจึงเป็นเหตุให้ผู้ป่วยถูกจำหน่ายกลับบ้านออกจากโรงพยาบาล ในขณะที่ผู้ป่วยยังต้องรับการดูแลอย่างต่อเนื่องทำให้ต้องมีการดูแลสุขภาพที่บ้าน (Home Health Care) เพื่อคงไว้ซึ่งคุณภาพชีวิตที่ดี ไม่รู้สึกถูกทอดทิ้งจากบุคลากรในทีมสุขภาพ เสียค่าใช้จ่ายถูกกว่าในโรงพยาบาล นอกจากนี้ยังพบว่าภาวะแทรกซ้อนที่พบบ่อยมากในผู้ป่วยกลุ่มนี้คือ การเกิดแผลกดทับ (Bed sore ,Pressure sore)
กลุ่มการพยาบาลได้เล็งเห็นความสำคัญของการแก้ปัญหาการเกิดแผลกดทับ โดยได้จัดตั้งคณะกรรมการประกันคุณภาพทางการพยาบาลโดยแต่งตั้งคณะกรรมการจากทุกหอผู้ป่วยมาร่วม คิดหาแนวทางปฏิบัติเพื่อป้องกันการเกิดแผลกดทับขึ้นในโรงพยาบาล โดยในปี 2553 มีการนำเอา Barden scale มาใช้ประเมินผู้ป่วยที่มีกลุ่มเสี่ยงทุกราย การใส่อุปกรณ์การป้องกันการเกิดแผลกดทับ การใช้ตารางพลิกตะแคงตัว การคิดและประยุกต์นวัตกรรมมาใช้เพิ่มขึ้นให้เหมาะกับบริบทของแต่ละหน่วยงาน จากการประเมินติดตาม พบว่าอัตราการเกิดแผลกดทับในปี 2553 ถึงปัจจุบันมีแนวโน้มลดลงระดับหนึ่ง และจากการวิเคราะห์ข้อมูลพบว่า มีปัญหาจากบุคลากรขาดความตระหนักถึงปัญหาแผลกดทับรวมทั้งขั้นตอนการปฏิบัติที่แตกต่างกัน ภาระหน้าที่ที่เพิ่มขึ้น อุปกรณ์ที่ไม่เพียงพอ นอกจากนี้แนวปฏิบัติในการวางแผนการจำหน่ายผู้ป่วยกลับบ้าน การสอนญาติในการดูแลผู้ป่วยเพื่อป้องกันแผลกดทับ เทคนิคการทำแผลต่อเนื่อง ยังไม่ได้ถูกส่งต่อไปยังชุมชนและโรงพยาบาลในเครือข่าย
เน้นผู้ปฏิบัติมีโอกาสแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติงาน (Tacit Knowledge) และสร้างช่องทางเชื่อมต่อความรู้เชิงประจักษ์ (Evidence Based Practice) มุ่งสู่การปฏิบัติที่ดีเลิศ (Best Practice) เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ในวิชาชีพอย่างไม่สิ้นสุดต่อไป จึงได้จัดทำโครงการ การจัดการความรู้เพื่อแก้ปัญหาเรื่องแผลกดทับ โดยให้พยาบาลวิชาชีพซึ่งเป็นตัวแทนแต่ละหอผู้ป่วยเข้ามาแลกเปลี่ยนประสบการณ์การจัดการความรู้เรื่องแผลกดทับในหอผู้ป่วย
Download เอกสาร> การจัดการความรู้เรื่องแผลกดทับ